16.00/17.40 นัดหมายพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โปรดสังเกตุป้าย เลทส์โกกรุ๊ป พบเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกเช็คอินให้แก่ท่าน
18.55/20.40 ออกเดินทางสู่ สนามบินฮามัด กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ โดยสายการบิน Qatar Airways เที่ยวบินที่ QR835/QR829 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
22.30/00.05 เดินทางถึง สนามบินฮามัด กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ และรอต่อเครื่อง
02.40 นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมัน โดยสายการบิน Qatar Airways เที่ยวบินที่ QR059 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
06.55 เดินทางถึง สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมัน หลังจากนั้นนำท่านผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองรับสัมภาระพร้อมออกเดินทางตามรายการ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิวนิค (Munich) ประเทศเยอรมัน เป็นเมืองที่ใหญ่ เป็นอันดับ 3 ในเยอรมันรองจากเบอร์ลินและฮัมบวร์ค มิวนิคตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอีซาร์ ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำดานูบ นำท่านชม ศาลากลางของเมืองมิวนิค (Neues Rathaus) ที่ตั้งอยู่ด้านเหนือของ จัตุรัสมาเรียน พลัทซ์ (Marienplatz) หรือ จัตุรัสพระแม่มารี คือจัตุรัสกลางเมืองของนครมิวนิค ถือเป็นจัตุรัสหลักประจำเมืองมาตั้งแต่ ค.ศ. 1158 และยังเป็นที่ตั้งของเสาอนุสรณ์พระแม่มารี ซึ่งตั้งตระหง่านที่จัตุรัสแห่งนี้มาตั้งแต่ ค.ศ. 1638 ในปัจจุบันด้านเหนือของจัตุรัสนี้เป็นที่ตั้งของ ศาลาว่าการเมืองแห่งเก่า และด้านตะวันออกเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองแห่งใหม่ จัตุรัสนี้ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คของมิวนิค มีร้านอาหาร ร้านสินค้าแบรนด์เนมให้ท่านเดินเลือกชมมากมาย มีสถาปัตยกรรมต่างๆที่ออกแบบและตกแต่งสไตล์โกธิค
เที่ยง บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (1)
จากนั้นนำท่านเข้าชม ปราสาทนอยชวานซไตน์ (Neuschwanstein Castle) (เดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เป็นปราสาทตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์แถบบาวาเรีย ประเทศเยอรมัน สร้างในสมัยพระเจ้าลูทวิชที่ 2 แห่งบาวาเรีย ในช่วง ค.ศ. 1845 – 1886 ออกแบบโดย Christian Jank ตามจินตนาการของพระเจ้าลูทวิชที่ 2 แห่งบาวาเรีย มีพระประสงค์ให้จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับอย่างสันโดษ
เพื่ออุทิศให้แก่มหากวีชื่อ ริชาร์ท วากเนอร์ ผู้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างให้เป็นไปตามบทประพันธ์เรื่อง โลอินกรีน ปราสาทแห่งนี้จึงได้รับการตกแต่งตามเรื่องราวในบทประพันธ์ดังกล่าว และเป็นต้นแบบของการสร้างปราสาทเทพนิยายเจ้าหญิงนิทรา สวนสนุกดิสนีย์แลนด์และโตเกียวดิสนีย์แลนด์ รวมไปถึงแดนเนรมิต *รวมค่าเข้าชมปราสาทนอยชวานซไตน์แล้ว ในกรณีที่ไม่สามารถเข้าชมภายในได้ ณ วันเดินทาง ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคืนค่าตั๋วเข้าชมท่านละ 18 ยูโร ทั้งนี้ยังสามารถเที่ยวชม-บริเวณโดยรอบของปราสาทได้ หรือ จุดชมวิวปราสาท ตามความเหมาะสม ณ วันเดินทาง*
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฟุสเซ่น (Fussen) (เดินทางประมาณ 40 นาที) ฟุสเซ่นเป็นเมืองในบาวาเรีย อยู่ห่างจากชายแดนออสเตรียประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตเครื่องดนตรีไวโอลีน นอกจากนี้เมืองนี้ก็ยังมีความน่ารักในตัวเองเพราะเป็นเมืองเล็กๆ ขนาดไม่ใหญ่มากนัก ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขาและธรรมชาติ
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (2) พิเศษ!! เมนูขาหมูเยอรมัน
ที่พัก Central City Hotel, Fussen ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (3)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองการ์มิช พาร์เทินเคียร์เชิน (Garmish Partenkirchen) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เป็นเมืองชนบททางใต้ของรัฐไบเอิร์น ติดกับพรมแดนประเทศออสเตรีย ถือเป็นแหล่งเล่นสกีที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง เมืองนี้เคยเป็นสถานที่จัดโอลิมปิกฤดูหนาว บริเวณใกล้เคียงเป็นทั้งของเขาซุกสปิตเซ่ และยังเป็นบ้านเกิดของคีตกวีชื่อดังอย่าง ริชาร์ท ชเตราส์ นำท่านเดินทางสู่ ยอดเขาซุกสปิตเซ่ (Zugspitze) นำท่านนั่งกระเช้า (Cable car) ขึ้นสู่ยอดเขาซุกสปิตเซ่ ยอดเขาที่สูงที่สุดของเยอรมัน มีความสูง 2,600 เมตร แม้ฤดูร้อนท่านก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่แห่งธรรมชาติได้ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น สายลม หน้าผา หิมะ น้ำแข็ง ธารน้ำแข็ง ชมโบถส์ที่สูงที่สุดของเยอรมัน อิสระให้ท่านชมธรรมชาติและถ่ายรูปตามอัธยาศัย
เที่ยง บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (4) *กรณีร้านอาหารบนยอดเขาซูกชปิทเซไม่สามารถรองรับคณะได้ ไม่ว่ากรณีใด ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์นำท่านรับประทาน
อาหารที่ภัตตาคารในเมืองใกล้เคียงเป็นการทดแทน โดยไม่สามารถคืนค่าใช้จ่ายให้ท่านได้ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่ง ทั้งนี้ทางบริษัทจะคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ*
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอินส์บรุค (Innsbruck) (เดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เป็นเมืองหลวงของรัฐทีโรล (Tyrol) ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มอินน์ ทางตะวันตกของประเทศออสเตรีย หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งประวัติศาสตร์ คำว่า “บรุค (Bruck)” ในภาษาเยอรมันที่แปลว่า “สะพาน” เมื่อรวมความหมายของทั้งสองคำก็จะหมายถึง “เมืองที่เป็นสะพานข้ามแม่น้ำอินน์” เมืองอินส์บรุค ถูกขนานนามว่าเป็น Capital of Alps เพราะที่แห่งนี้ถูกใช้เป็นจุดพักระหว่างการเดินทางบนเทือกเขาแอลป์
นำท่านชมสัญลักษณ์ของเมือง หลังคาทองคำ (Golden Roof) ที่สร้างในปี ค.ศ.1500 สมัยจักรพรรดิแม็กซิมิเลี่ยนที่ 1 หลังคามุงด้วยแผ่นทองแดงเคลือบทองคำ เดินเล่นชมเมืองเก่าตามอัธยาศัย นำท่านสู่ ถนนมาเรียเทเรซ่า (Maria Theresa Street) ถนนสายหลักของเมืองอินส์บรุค ตรงกลางถนนเป็นที่ตั้งของ “เสาอันนาซอยแล”(เสานักบุญแอนน์) ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อรำลึกถึงการถอนกองกำลังทหารบาวาเรีย และเข้าสู่ ย่านเมืองเก่าเมืองอินส์บรุค ที่ยังคงสภาพและบรรยากาศของยุคกลางได้เป็นอย่างดี
ค่ำ อิสระอาหารค่ำ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยวและช้อปปิ้ง
ที่พัก ibis Hotel, Innsbruck ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (5)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองซาลส์บูร์ก (Salzburg) ประเทศออสเตรีย (เดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ในประเทศออสเตรีย เมืองเก่าของซาลส์บูร์กเป็นสถาปัตยกรรมแบบบาโรก เป็นหนึ่งในใจกลางเมืองที่ถูกดูแลรักษาอย่างดีที่สุดในกลุ่มประเทศที่พูดภาษาเยอรมันด้วยกัน ได้รับขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี 1996 นำท่านเข้าชม สวนมิราเบล (Mirabell Palace & Gardens) ซาลส์บูร์กมีอาคารและสวนเก่าแก่ไม่มาก แต่มีพระราชวังมิราเบลอันโดดเด่นและเป็นหนึ่งในอาคารที่ดีที่สุดในออสเตรีย พระราชวังแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสาวรีย์มรดกทางวัฒนธรรม สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1606 นำท่านชม บ้านเกิดโมสาร์ท (House of Walfgang Amadeus Mozart) กวีเอกของโลกชาวออสเตรีย ปัจจุบันนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติของโมสาร์ทและครอบครัว อิสระให้ท่านเดินชมย่านเมืองเก่าเลือกซื้อสินค้าบน ถนนเก็ตเตรียกาสเซส (Getreidegasse) ที่มีทั้งร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกต่างๆ มากมาย
เที่ยง บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (6)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) (เดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) หมู่บ้านมรดกโลกอันแสนโรแมนติกที่มีอายุกว่า 4,500 ปี เมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวยงามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุด จนได้รับฉายา“ไข่มุกแห่งออสเตรีย” และ ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโกปี 1997 นำท่านชม โบสถ์แพริช (Parish Church) โบสถ์สวยริมทะเลสาบมีอายุกว่า 500 ปี ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 ก่อสร้างขึ้นท่ามกลางซากปรักหักพังของป้อมโรมัน นำท่านชม โบสถ์ประจำเมืองฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt Lutheran Church) ที่มียอดแหลมสูงเด่นเป็นสง่าจากทุกมุมมองของเมือง เป็นโบสถ์นิกายโปรเตสแตนต์ สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1785 เพื่อใช้เป็นสถานที่ฟังเทศนาพระราชกฤษฎีกาโดยจักรพรรดิโยเซฟที่ 1 นำท่านชม จัตุรัสกลางเมือง (Central Square Marktplatz) ที่โดดเด่นด้วย รูปปั้นโฮลี่ทรินิตี้ (Holy Trinity Statue) เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลสำคัญต่างๆของเมือง
นำท่านเดินทางสู่ เมืองลินซ์ (Linz) (เดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองลินซ์เป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของออสเตรีย รองจากเวียนนาและกราซ (Graz) มีประชากรราว 460,000 คน โดยลินซ์เป็นหนึ่งในเมืองเศรษฐกิจสำคัญของออสเตรีย มีโรงงานเหล็กและโรงงานเคมีขนาดใหญ่อยู่ริมแม่น้ำดานูบ (Danube River) นอกจากการเป็นเมืองอุตสาหกรรมแล้ว ลินซ์ยังเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์น่าสนใจ
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (7)
ที่พัก Trans World Hotel Douau Welle, Linz ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (8)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเชสกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) (เดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เป็นเมืองขนาดเล็กในภูมิภาคโบฮีเมียทางตอนใต้ของสาธารณรัฐเช็ก มีชื่อเสียงจากสถาปัตยกรรมและศิลปะของเขตเมืองเก่า ด้วยทำเลที่ตั้งของตัวเมืองที่มีคูน้ำล้อมรอบ ทำให้กลายเป็นปราการที่สำคัญในการป้องกันข้าศึก ในปี ค.ศ. 1963 จากประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน มีความสำคัญและโดดเด่นในการอนุรักษณ์สถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า ที่ได้รับการขนานนามว่า “ไข่มุกแห่งโบฮีเมีย” ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1992
นำท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ ปราสาทครุมลอฟ (Krumlov Castle) จากบริเวณรอบนอก ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1250 ถือเป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองลงมาจากปราสาทปราก มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำวอลตาวา (Valtawa River) ตรงบริเวณคุ้งน้ำ ฝั่งตรงข้ามเป็นย่านเมืองเก่าคลาสสิค (Senete Square) และโบสถ์เก่าแก่กลางเมือง
เที่ยง บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (9)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองปราก (Prague) (เดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) เมืองหลวงแห่งสาธารณรัฐเช็ก ปรากเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม ที่เต็มไปด้วยปราสาทเก่าแก่ มีเสน่ห์ เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ มหาวิหารเซนต์วิตัส (St.Vitus Cathedral) โดยตัววิหารตั้งอยู่บริเวณ ปราสาทปราก (Prague Castle) เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คของเมืองปราก เป็นปราสาทอันเก่าแก่ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 885 และกินเนสต์บุ๊คยังรับรองว่าเป็นปราสาทโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ที่ประกอบไปด้วย ปราสาท พระราชวัง สวนขนาดใหญ่ และ มหาวิหารเซนต์วิตัส นอกจากความเก่าแก่และความยิ่งใหญ่แล้ว สถาปัตยกรรมของปราสาทปรากยังมีความน่าสนใจ จากนั้นนำท่านเดินทางชม สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) เป็นสะพานที่ทำหน้าที่เชื่อมระหว่างฝั่งตะวันออก กับฝั่งตะวันตกของเมืองปราก มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1375 ตัวสะพานมีความยาวถึง 621 เมตร นำท่านชม ย่านจัตุรัสเมืองเก่า (Old Town Square) ที่คลาสสิกโดยเฉพาะอาคารศาลาว่าการเมืองของกรุงปราก ท่านจะได้เห็นสถาปัตยกรรมที่งดงาม อาทิ โรงละครโอเปร่า, พิพิธภัณฑ์, หอคอยดินปืน ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (10) พิเศษ!! เมนูเป็ดโบฮีเมียน
ที่พัก Clarion Congress Hotel, Prague ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (11)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองบราติสลาวา (Bratislava) (เดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสโลวัก (Slovak) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบที่บริเวณพรมแดนของ สโลวัก ออสเตรีย และฮังการีและใกล้กับพรมแดนสาธารณรัฐเช็ก นำท่านชมบรรยากาศของ เมืองบราติสลาวา ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งสโลวัก นำท่านชม ปราสาทบราติสลาวา (Bratislava Castle) ซึ่งเป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าตั้งอยู่บนเนินเขา ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ ท่านสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามของเมืองได้จากมุมของปราสาทแห่งนี้ จากนั้นนำท่านเดินเล่นย่านเมืองเก่าที่สวยงามของเมืองบราติสลาวา
เที่ยง บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (12)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวียนนา (Vienna) (เดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เป็นเมืองหลวง เมืองใหญ่สุดของประเทศออสเตรีย เวียนนาเป็นนครที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศ มีประชากรในเขตเมืองมากที่สุดเป็นอันดับที่ 6 ของสหภาพยุโรป โดยมีผู้อาศัยทั้งสิ้น 2 ล้านคนและยังเป็นศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการเมือง
ากนั้นนำท่านเข้าชมความสวยงามของ พระราชวังเชินบรุนน์ (Schonbrunn Palace) แห่งราชวงศ์ฮอฟบวร์ค ชมห้องต่างๆและเรื่องราวประวัติการสร้างของพระราชวังตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 และต่อมาพระนางมาเรีย เทเรซ่า ให้สร้างขึ้นใหม่อย่างสง่างามด้วยจำนวนห้องถึง 1,441 ห้อง ในระหว่างปี ค.ศ. 1744-1749 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน ชมความโอ่อ่าของท้องพระโรงและโถงพลับพลาที่ประทับ ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรสวยงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายส์ในประเทศฝรั่งเศส โดยรอบของพระราชวังเชินบรุนน์ ถูกรายล้อมด้วยสวนที่จัดตกแต่งประดับประดาจากต้นไม้ ดอกไม้ตามฤดูกาลได้อย่างสวยงามตระการตา ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1996 ** รอบของการเข้าชมอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม กรณีไม่สามารถเข้าชมได้ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่สามารถคืนค่าใช้จ่าย ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่งให้กับท่านได้ทุกกรณี เนื่องจากเป็นการชำระล่วงหน้ากับผู้แทนเรียบร้อยแล้วทั้งหมด **
นำท่านชม วิหารเซนต์สตีเฟ่น (St. Stephen’s Cathedral) สัญลักษณ์ของเมืองเวียนนา ซึ่งพระเจ้าคาร์ลที่ 6 โปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1713 เพื่อเป็นการแก้บนต่อความทุกข์ยากของประชาชน นำท่านเดินทางสู่ ถนนคาร์นเนอร์สตราเซ (Kartnerstrasse) ใจกลางเมืองเวียนนา เป็นย่านจำหน่ายสินค้านานาชนิด อาทิเช่น สินค้าแบรนด์เนม Louis Vitton, Gucci, ร้านนาฬิกา Bucherer, Zara, H&M, Pandora ร้านของที่ระลึก คาเฟ่ และร้านอาหารต่างๆ
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (13) พิเศษ!! เมนูซี่โครงหมูย่างเวียนนา
ที่พัก JUFA Hotel Wien City, Vienna ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (14)
นำท่านเดินทางสู่ พาร์นดอร์ฟ เอาท์เล็ท (Parndorf Outlet) (เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เอาท์เล็ทแห่งแรกของประเทศออสเตรีย และเป็นแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ มีร้านค้ามากกว่า 120 ร้าน สินค้าแบรนด์ชื่อดังต่างๆ จากทุกมุมโลก มีให้เลือกมากมายอย่างจุใจ เช่น รองเท้า เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน สินค้าแบรนด์เนมมากมาย ให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม อาทิ Bally , Burberry , Calvin Klein , Camel Fossil , Guess , Lacoste , Levi’s , Nike , Samsonite , Swarovski , Tommy Hilfiger , Valentino , Versace
เที่ยง อิสระอาหารเที่ยง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยวและช้อปปิ้ง
นำท่านเดินทางสู่ เมืองบูดาเปสต์ (Budapest) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.20 ชั่วโมง) เมืองหลวงของ ประเทศฮังการี (Hungary) ที่รวมเอาสองเมืองเข้าด้วยกัน คือเมือง “บูดา” (Buda) กับเมือง “เปสต์” (Pest) รวมกันเมื่อปี ค.ศ. 1873 บูดาเปสต์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ทันสมัยและสวยงามติดอันดับของโลก ด้วยศิลปวัฒนธรรมของหลายเชื้อชาติที่มีอารยธรรมรุ่งเรืองมานานกว่าพันปีจนได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ (Pearl of Danube River)”
นำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสวีรบุรุษ (Heroes’ Square) สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในการฉลองครบรอบ 1,000 ปี ของการก่อตั้งประเทศฮังการี (Millenium Celebrations of Hungary) ในปี ค.ศ. 1896 แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1929 เรียกส่วนกลางของจัตุรัสวีรบุรุษ นี้ว่า “Millennium Memorial” หรือที่รู้จักกันว่า Millennium Monument หรือ Millenary Monument มีรูปปั้นผู้นำของกลุ่มชนเจ็ดกลุ่ม ผู้ก่อตั้งประเทศฮังการีตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 9 ที่ด้านหน้าสุดของจัตุรัสจะมองเห็นอนุสาวรีย์หินประดับด้วยโซ่เหล็ก ด้านหลังคืออนุสาวรีย์เสาหินขนาดใหญ่และสูง 36 เมตร บนยอดมีรูปปั้นของอัครเทวดาคาบรีแอง ผู้ส่งสารของพระเจ้า
จากนั้นนำท่าน ล่องเรือแม่น้ำดานูบ (Danube River Cruise) ชมทิวทัศน์และอารยธรรมของประเทศฮังการีในช่วง 600-800 ปีมาแล้วที่ตั้งเรียงรายกันอยู่ 2 ฝั่ง ชมความตระการตาของอาคารต่างๆ ผ่านชม อาคารรัฐสภาฮังการี (Hungary Parliament) ตัวอาคารมีความสวยงามด้วยสภาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคที่ดูคลาสสิกสวยงามและยิ่งใหญ่ ด้วยหลังคาสีแดง เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1885 และใช้เวลากว่า 20 ปีกว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ ตั้งโดดเด่นอยู่ริมแม่น้ำดานูบบนฝั่งเปสต์ เป็นอาคารรัฐสภาที่ชาวฮังการีภูมิใจว่าเป็นอาคารรัฐสภาที่สวยที่สุดในโลก ผ่านชม สะพานเชน (Chain Bridge) สะพานแขวนแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่สำคัญที่สุดของเมืองบูดาเปสต์ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 ทอดตัวข้ามแม่น้ำดานูบ และยังเป็นสะพานแห่งแรกที่เชื่อมระหว่างฝั่งบูดาและฝั่งเปสต์ ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ทั้งสองเมืองนี้ยังแบ่งเมือง ถูกทหารนาซีถล่มในช่วงใกล้จบสงคราม โลกครั้งที่ 2 และถูกซ่อมแซมขึ้นใหม่ให้คงลักษณะเดิม
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (15)
ที่พัก Holiday Inn, Budapest ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (16)
นำท่านเดินทางสู่ ป้อมชาวประมง (Fishermen’s Bastion) ป้อมทรงกรวยยอดแหลม 7 ยอด ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1905 โดยกลุ่มชาวประมงฮังกาเรียน เพื่อรำลึกถึงความกล้าหาญของชาวประมงผู้เสียสละชีวิตปกป้องบ้านเมืองในคราวที่ถูกพวกมองโกลเข้ามารุกรานเมื่อปี ค.ศ. 1241-1242 บนป้อมชาวประมงนี้ ยังเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด สามารถมองเห็นความสวยงามของเมืองทั้งเมืองได้โดยรอบ นำท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ โบสถ์แมทเธียส (Matthias Church) โบสถ์ใหญ่เก่าแก่อายุกว่า 700 ปี ที่ตั้งชื่อตามพระนามของกษัตริย์แมทเธียส กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งประเทศฮังการี เมื่ออดีตโบสถ์แห่งนี้เคยเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีเถลิงราชสมบัติของกษัตริย์แห่งประเทศฮังการี แต่ในช่วงที่ประเทศฮังการีถูกรุกรานจากกองทัพเติร์ก สมบัติส่วนใหญ่ถูกขนออกไป และถูกเปลี่ยนสภาพให้เป็นมัสยิดหลักของเมืองภายใต้การปกครองของประเทศตุรกีในปี ค.ศ. 1541 และในช่วงสงครามขับไล่กองทัพเติร์ก โบสถ์แมทเธียส ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก กระทั่งเมื่อสงครามสงบลงจึงมีการบูรณะโบสถ์แมทเทียสให้กลับมายิ่งใหญ่และงดงามดังเดิม บริเวณเดียวกัน เป็นที่ตั้งของ อนุสาวรีย์พระเจ้าสตีเฟ่นที่ 1 (Statue of St Stephen) ตั้งเด่นเป็นสง่าให้ได้ชม อนุสาวรีย์พระบรมรูปทรงม้าผลงานประติมากรรมที่งดงามของศตวรรษที่ 11
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติบูดาเปสต์ เฟเรนตส์ ลิซท์ ประเทศฮังการี
14.45 ออกเดินทางสู่ สนามบินฮามัด กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ โดยสายการบิน Qatar Airways เที่ยวบินที่ QR200 (บริการอาหารและเครื่องดื่ม)
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12.30 ชั่วโมง
22.00 เดินทางถึง สนามบินฮามัด กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เพื่อรอการเปลี่ยนเครื่องกลับสู่กรุงเทพฯ
02.30 นำท่านเดินทางสู่ สนามบินฮามัด กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ โดยสายการบิน Qatar Airways เที่ยวบินที่ QR836 (บริการอาหารและเครื่องดื่ม) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
12.50 เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
เลขที่ 46/30 ถนนเจริญราษฎร์ แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ 10120